การตัดด้วยเครื่อง Laser มีความเที่ยงตรงรวดเร็ว และได้ชิ้นงานที่มีความเที่ยงตรงตามแบบที่เราได้เขียนไว้.. เพราะลำแสง laser จะมีขนาดเล็กมากประมาณ 0.20-0.80 mm. ซึ่งสามารถทำให้ตัดเข้าซอกมุมได้ดี..และไม่เกิด ขุยจากการตัด(ไม้) แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เครื่อง Laser cut ถ้าเปรียบไปก็เหมือนๆกับเครื่องไรท์ CD (คุณเอาอะไรใส่เข้าไปมันก็ไรท์แบบนั้น) เครื่องจะเดินตรงและประสิทธิภาพสูงขนาดไหนนั้นนอกจากจะได้รับการปรับและการควบคุมที่มีประสิทธิภาพแล้ว..การได้มาซึ่งแบบที่ถูกต้อง และการชดเชยชิ้นงานเพื่อการตัดด้วย Laser cut นั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆด้วยเช่นกัน..ในส่วนนี้ผมคิดว่ามีไม่กี่ท่านที่ไม่ทราบ..ท่านคงคิดว่าเครื่องLaser cut ตัดชิ้นงานให้ท่านยังไงๆ...ท่านต้องได้รับชิ้นงานที่เที่ยงตรง...ผมจึงถือโอกาสนี้ชี้แจ้งให้เข้าท่านได้เข้าใจ..ถ้าท่านมีโอกาสที่จะต้องใช้บริการตัด Laser ท่านจะได้ทราบถึงวิธีการในการดำเนินการต่างๆ...ว่าท่านจะต้องเตรียมตัว (งานของท่าน) อย่างไร...อีกทั้งท่านจะได้รู้เท่าทันผู้ประกอบการ (รู้เขารู้เรารบร้อยครับชนะร้อยครั้ง)
การรับงานเพื่อการตัดด้วย Laser cut ของเรา จะมีประมาณ 5 ขั้นตอน ผมขอให้ท่านที่สนใจกรุณาทำความเข้าใจก่อนส่งงานมาให้คิดราคา...ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวเป็นขั้นตอนการทำงานแบบมาตราฐานสากล..ซึ่ง ณ.ปัจจุบันนี้ผมใช้มาตราฐานนี้..และมีลูกค้าจากใน-นอกประเทศใช้บริการ..อยู่อย่างต่อเนื่องครับ..
ขั้นตอนจะมีดังนี้ครับ..และผมขออธิบายในแต่ละขั้นตอนให้ทราบไปด้วย...
1.การทำแบบเพื่อการตัด Laser cut
- การที่จะตัด Laser cut นั้น file งานที่ software รองรับคือ file .al จากโปรแกรม CorelDraw หรือ .dxf file จากโปรแกรม Auto cad จากที่ผมได้ทำงานมา file .dxf จาก Auto cad นั้นไม่เคยมีปัญหาใดๆเลยในการใช้งานร่วมกับ software Laser cut
- ซึ่ง file .dxf หรือ .al นี้ เป็น ไฟล์ดิจิตอล และเส้นรูปชิ้นงานจะเป็น Vector ซึ่ง software Laser cut จะอ่านค่าจาก เส้น Vector รูปชิ้นงานนั้นๆ แปลงเป็น Gcode ให้เครื่อง Laser cut ตัดตามขนาดของชิ้นงานนั้นๆ ตามที่เราได้เขียนแบบไว้
- ท่านที่มีแบบแปลนหรือไฟล์งานที่เป็นไฟล์ Jpec หรือนำไปสแกนแล้วสามารถตัดได้หรือไม่..ตัดได้ครับแต่ต้องได้รับการ draft เส้นจากชิ้นงานในไฟล์ Jpec ที่สแกนมาด้วยโปรแกรม Auto Cad เพื่อให้ได้เส้นชิ้นงานไฟล์ดิจิตอลที่เป็น Vector เสียก่อน หรือเรียกว่าการทำ CAD
- การทำ CAD นี้ ทางเราคิดราคาในการทำ ชั่วโมงละ 300 บาท หรือแล้วแต่ความยากง่ายและจำนวณชิ้นงาน ตกลงกันได้ครับ
- ท่านที่ทำ CAD มาเองจะไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
2. การชดเชยการตัดของชิ้นงานด้วย Laser cut
ทำไมต้องมีการชดเชย ด้วยเหตุที่ว่า Software Laser cut ไม่มีคำสั่งในการ offset tool เหมือน Software ของ CNC ผมขอยกตัวอย่าง สมมุติชิ้นงานไม้อัดหนา 3 mm.ขนาด 20X20 mm. ถ้าตัดด้วย CNC เราป้อนขนาด tool ที่เราจะใช้ตัดได้เลยโปรแกรม CNC ก็จะแปลงเป็น Gcode เรานำไปใส่เครื่อง CNC และใส่ tool ตามขนาดที่เราป้อนและเดินเครื่องเราก็จะได้ชิ้นงาน ขนาด 20X20 mm. ตามแบบ …
แต่ถ้านำมาแบบชิ้นนั้นมาตัดด้วย Laser จะได้ชิ้นงานที่เล็กกว่า จาก20X20mm. เป็น 19.5X19.5 mm.หรือเล็กกว่านั้น..ไม่ใช่ว่า Software Laser cut นั้นไม่ฉลาดไม่มีคำสั่ง offset ชิ้นงาน แต่การตัดด้วย Laser นั้นมีตัวแปรมากมาย...เช่น…
- การใช้ power กำลังไฟในการตัด…
- การป้อน feed ความเร็วในการตัด…
- การปรับระยะโฟกัส ของหัว Laser กับชิ้นงาน
- ความแข็ง+ความหนาของวัสดุ
- คุณภาพของ Lens โฟกัสที่ติดตั้งในหัวยิง Laser
- และที่สำคัญมากคือ คุณภาพของหลอด Laser ที่ใช้ว่ามีความเหมาะสมกับงานนั้นๆมากน้อยเพียงใดทั้งหมดนี้คือตัวแปรที่สำคัญและมีผลต่อขนาดชิ้นงาน ซึ่งค่าการชดเชยการตัดนั้นๆ ขึ้นอยู่กับสมรถะนะของเครื่องกำลังวัตต์+คุณภาพของหลอด Laser และการปรับตั้งของผู้ปฏิบัติงานควบคุมเครื่อง Laser machine
ถ้าคุณไม่ซีเรียสกับการชดเชยเพื่อการตัด...หรือต้องการทราบค่า Offset ในการชดเชยการตัดกรุณาแจ้งวัสดุที่คุณจะตัด..เพื่อรับค่า Offset นั้นไปปรับแก้ชิ้นงานของคุณ...เพื่อส่งงานกลับมาให้เราตัด…
- ท่านที่ทำ CAD หรือชดเชยการตัดในส่วนนี้ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกและได้ชิ้นงานตรงตามแบบที่คุณสร้างขึ้น
ภาพตัวอย่างการแสดงขนาดของการตัด rib ปีกเครื่องบิน คุณจะเห็นได้ว่า ถ้าลำแสง laser มีขนาด 0.7 mm. ลำแสง laser จะตัดกลางเส้นของชิ้นงานซึ่งจะกินเนื้อชิ้นงานเข้ามา= 0.35 mm
ค่า Offset หรือขนาดของสำแสง laser ที่ตัดชิ้นงานนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของหลอด laser ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง laser cut นั้นๆ ขอยกตัวอย่าง ถ้าตัดไม้ Balsa 2.5mm. ลำแสง Laserที่ออกมาจากหลอดคุณภาพสูง จะมีขนาด 0.4-.05 mm. และ 0.7 mm.ขึ้นไปสำหรับหลอดคุณภาพต่ำ
แต่ rib ปีกนั้นเป็นชิ้นงานที่เป็นมุมแหลมแบบ 3 เหลี่ยม เมื่อตัดแล้วเสร็จ rib จะมีขนาด เล็กลง = 3.78 mm. และร่องใส่ sparกว้างขึ้นอีกเกือบ 1 mm. และถ้าที่ลำตัวไม่ได้ชดเชยการตัดก็จะทำให้ช่องวางปีกนั้นกว้างขึ้นเพิ่มอีกประมาณ = 1 mm. รวมกับขนาดที่หายไปของ rib = 4.78 mm. ซึ่งรวมแล้วประมาณ ½ ซ.ม.
ถ้าคุณคิดว่าคุณยอมรับได้กับการที่ไม่ต้องชดเชยเพื่อการตัด Laser ก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับคุณ..ท่านที่เคยนำแบบไปตัด Laser กับผู้ประกอบการที่ไม่รู้เกี่ยวกับ งานโมเดลที่ต้องแมชชิ่งกับชิ้นส่วนชิ้นอื่นหรือรู้แต่ไม่ทำการชดเชยให้เพราะจะทำให้ราคานั้นขยับขึ้นไป...และทำให้เสียโอกาสในการเดินเครื่องเพื่อค่าตัด...ท่านคงได้รับชิ้นส่วนปีกที่วางกับลำตัวแล้ว...มันเหลือช่องว่างประมาณ1/2 ซ.ม.เป็นอย่างน้อย..
3. การจัดวาง Layout บนวัสดุ
- การจัดเรียง Layout ชิ้นงานบนวัสดุไม้ Balsa หรือวัสดุอื่นๆ ควรมี Gap ระหว่างชิ้นงานประมาณ 1.5 - 2 mm.
- เครื่อง Laser cut machine ที่เราใช้ตัดชิ้นงานให้คุณสามารถรองรับชิ้นงานขนาด 1300X900 mm. รับชิ้นงานได้หนา 150 mm.
- มี working table แบบ T-slot และ Honeycomb (ตะแกรงรังผึ้ง) รองรับวัสดุอ่อนเช่น ผ้า, หนัง, ฯลฯ
- ท่านที่ทำ Layout ในส่วนนี้ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป(แต่ถ้าเป็นชิ้นงานเหมือนๆกันตัดเป็นจำนวณมากเราจะทำ Layout ฟรีไม่มีค่าบริการ)
4. การตรวจเช็คแบบเพื่อตัด Laser cut
- ขั้นตอนนี้มีความสำคัญมาก เพราะถ้าการเขียนแบบ ใช้ layer, คำสั่งการเขียนเส้นต่างๆไม่ถูกต้อง หรือมี เส้นทับซ้อนเป็นจำนวนมากและมี Dot เส้น ขยะจากการเขียนแบบที่ไม่มีประสบการณ์ รวมถึงการ save as ให้เป็น .dxf file จาก โปรแกรมอื่นๆ บางครั้ง Software laser cut ไม่สามารถเปิด file เหล่านี้ได้..หรือบางครั้งเปิดได้แต่ทำ Gcode ไม่ผ่าน…
- ค่าบริการในการตรวจเช็คแบบและทำ file เพื่อการตัด Laser cut = 300 บาท/ชั่วโมง เราคิดตามจริงที่เราตรวจเช็คแก้ไขเช่น 20 นาที = 100 บาท และถ้าครั้งต่อไปคุณต้องการให้เราตัดอีกใน file เดิม เราจะไม่คิดค่าบริการในส่วนนี้ (ถ้าเป็นงานตัดแบบมีจำนวนมากๆในส่วนนี้ไม่จะคิดค่าบริการ)
- แต่ถ้ามีการแก้ไขจำนวนมากเราจะแจ้งให้ทราบเพื่อคุณจะได้รับ file กลับไปเพื่อแก้ไขจะได้ไม่ต้องเสียค่าบริการในส่วนนี้ มากเกินงบประมาณของคุณ...
- การตรวจเช็คแบบเพื่อตัด Laser cut ในส่วนนี้คุณไม่สามารถดำเนินการเองได้ เพราะ Software laser cut ที่ใช้แปลงเป็น Gcode สำหรับเครื่อง laser นั้น มีใช้แต่เพียงผู้ที่ครอบครองเครื่องเท่านั้นเพราะ Software จะมี hard rock และ update firmware มาจากโรงงานให้ตรงกับเครื่องที่ผลิตมา..
5. การคิดราคาค่าตัด Laser cut นาทีละ 15-40 บาทแล้วแต่งานนั้นๆ ตัวอย่างเช่น...
- ไม้ Balsa หนา 1 mm. = 15 บาท/นาที
- ไม้ Plywood หนา 0.8 mm. = 15 บาท/นาที
- Acrylic หนา0.5 mm. = 15 บาท/นาที
- ไม้ Balsa หนา 2-6 mm. = 20 บาท/นาที
- ไม้ Plywood หนา 1.5-3 mm. = 20 บาท/นาที
- Acrylic หนา 2 mm.ขึ้นไป = 20 บาท/นาที
- ส่วนวัสดุอื่นๆที่ตัดได้ทั่วๆไปจะคิดราคาประมาณ = 15 - 20 บาท/นาที
- ส่วนวัสดุที่มีกลิ่นรุนแรงและควันเขม่าเป็นจำนวนมากเช่น ABS, PVC หรืออื่นๆจะคิดราคาประมาณ = 30 - 40 บาท/นาที
- ในความเป็นจริงที่สากลโดยทั่วไป จะนิยมใช้ Laser ตัดไม้Balsa หนา 1-5 mm และไม้ Plywood หนา 2-5 mm.เท่านั้นในวงการ ผู้ผลิตชุดคิท และ โมเดล จาก Laser cut service จากทั่วโลก หนากว่านี้จะไม่นิยมครับ...
- ราคาวัสดุไม้ Balsa และ Plywood เท่าๆกับร้านทั่วๆไปหรือจะนำมาเองก็ได้
- ระยะเวลาการส่งมอบงานหลังชำระเงิน (ภายใน 7 วัน)
- ไม่รับทำงานละเมิดลิขสิทธิ์ใดๆทั้งปวง
- งานที่เราตัดให้คุณนั้นถึงแม้นว่า file งานอยู่ที่เรา แต่มีเพียงคุณเท่านั้นที่มีสิทธิที่จะให้เราทำซ้ำ…
- เรามีความซื่อตรงต่อวิชาชีพที่เราทำ...เราจะไม่ดำเนินการเพื่อให้ได้ค่าจ้างตัด...แล้วชิ้นงานและราคาไม่ตรงจุดประสงค์ของคุณ...ถ้าเราทราบเราจะแจ้งคุณก่อนดำเนินการ...ใดๆ…
Credit : http://www.thaiscalemodel.com/
หน้าที่เข้าชม | 130,251 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 85,723 ครั้ง |
เปิดร้าน | 23 ก.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 10 ก.ย. 2568 |